3. พื้นฐานการพัฒนาหลักสูตรด้านสังคม
                หลักสูตรเป็นองค์ประกอบอันสำคัญยิ่งอย่างหนึ่งของการจัดการศึกษาการจัดการศึกษาประเภทใดและระดับใดก็  ดีจะขาดหลักสูตรไม่ได้ เพราะหลักสูตรจะเป็นโครงร่างกำหนดไว้ว่า   จะให้เด็กได้รับประสบการณ์อะไรบ้างจึงจะเป็นประโยชน์ต่อเด็ก และสังคม  หลักสูตรเป็นแนวทางที่จะสร้างความเจริญเติบโตให้แก่ผู้เรียน  นอกจากนี้  หลักสูตรยังเป็นเครื่องชี้ให้เห็นโฉมหน้าของสังคมในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร ข้อมูลที่สำคัญที่ควรศึกษาวิเคราะห์เพื่อเป็นพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตร คือ ข้อมูลที่เกี่ยวกับสภาพทั่วไปของโรงเรียน  เช่น  ข้อมูลเกี่ยวกับจำนวนครูในโรงเรียน จำนวนอาคารสถานที่ และห้องเรียน   จำนวนอุปกรณ์และสื่อต่างๆ ข้อมูลเกี่ยวกับงบประมาณ  ความต้องการของครู ปัญหาที่เกิดจากการใช้หลักสูตรและกระบวนการเรียนการสอน    ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยในการพิจารณาว่าโรงเรียนมีความพร้อมหรือไม่ ระดับไหนอย่างไร    เพื่อนำข้อมูลไปใช้ในการตัดสินใจว่าจะมีแนวปฏิบัติในการจัดทำหลักสูตรหรือพัฒนาหลักสูตรอย่างไรจึงจะเหมาะสม ดับศักยภาพของโรงเรียนมากที่สุด     นอกจากข้อมูลเกี่ยวกับชุมชนและสภาพสังคมที่โรงเรียนตั้งอยู่ก็เป็นข้อมูลที่ผู้จัดทำหลักสูตรหรือผู้พัฒนาหลักสูตรจะต้องศึกษา  เช่น สภาพแวดล้อม สภาพภูมิศาสตร์  ที่ตั้ง หรือ สังคมโดยทั่วไปของผู้ใช้หลักสูตรหรือโรงเรียนนั้นเป็นอย่างไร   การสนับสนุนหรือความร่วมมือของชุมชน  สังคม ที่มีต่อโรงเรียน เป็นอย่างไร  ข้อมูลดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ในการจัดทำหลักสูตร เช่น การกำหนดวิชาเรียนต่างๆ                  เพราะบางรายวิชาสภาพชุมชนและสังคมไม่สามารถเอื้ออำนวยหรือส่งเสริมเท่าที่ควร    การศึกษาก็ไม่บรรลุผล  เพราะฉะนั้นการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโรงเรียน  ชุมชนและสังคมที่โรงเรียนต่างๆ     สามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ซึ่งข้อมูลต่างๆ เหล่านี้ สามารถค้นคว้าและหาข้อมูลได้จากเอกสารรายงานต่างๆ การสำรวจ       สอบถาม  และการสัมภาษณ์บุคคลต่างๆ  ตลอดจนข้อมูลที่เกี่ยวข้อง     ซึ่งการศึกษาข้อมูลดังกล่าวจำเป็นสำหรับ การพัฒนาหลักสูตรทั้งระดับธรรมดาและระดับชาติ     เพื่อให้ได้หลักสูตรที่ทุกโรงเรียนสามารถนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

กาญจนา คุณารักษ์ (2527 : 82) ได้แยกรายละเอียดไว้ 6 ประการ คือ 
1) การเปลี่ยนแปลงของสังคม 
2) การเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ 
3) การเมืองและการปกครอง 
4) แนวความคิดและผลการศึกษาค้นคว้าทางด้านจิตวิทยา 
5) ความก้าวหน้าทางวิทยาการเทคโนโลยีและ 
6) บาบาทของสถานบันศึกษาและสื่อมวลชน 
นอกจากนี้ มิเชลลิส กรอสแมน และสก๊อต (Michealis, Grossman and Scott. 1975 : 175) ยังได้เสนอแนวคิดหลักสำคัญ 5 ประการ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตรดังต่อไปนี้ 
1) พื้นฐานทางประวัติศาสตร์ ซึ่งจะมีประโยชน์ต่อการศึกษาปัญหาข้อถกเถียงและการปฏิบัติตลอดจนความสำเร็จและความล้มเหลวของหลักสูตรเดิม 
2) พื้นฐานทางด้านปรัชญาซึ่งจะช่วยในการพัฒนาเค้าโครงของค่านิยมและความเชื่อที่สัมพันธ์กับการกำหนดความมุ่งหมาย การเลือกและการใช้ความรู้ ความหมายและวิธีการดำเนินการและมิติอื่น ๆ ของการศึกษา 
3) พื้นฐานทางสังคมซึ่งจะเป็นแหล่งข้อมูลค่านิยม การเปลี่ยนแปลง ปัญหา ความกดดันและแรงขับทางสังคมที่จะนำมาพิจารณาในการวางแผนหลักสูตร 
4) พื้นฐานจิตวิทยา ซึ่งประกอบด้วยความคิดเกี่ยวกับการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กตลอดจนการเรียนรู้ของเด็ก 5) พื้นฐานเกี่ยวกับสาขาวิชา ซึ่งจะเปรียบเสมือนแหล่งข้อมูลที่เกี่ยวกับมโนมติ ข้อมูลต่าง ๆ แบบอย่างวิธีการและกระบวนการค้นคว้าอื่นๆ ที่อาจจะใช้ในการพัฒนาหลักสูตรและการวางแผนการเรียนการสอน ซึ่งบิชอบ (Bishop . 1985 : 88) มีความเห็นสอดคล้องกันว่าพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตรนั้นมีอยู่ด้วยกัน 5 ด้าน แต่บิชอบไม่ได้เรียกว่าเป็นพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตร เขาใช้คำว่า “ตัวกำหนดหลัก ซึ่งจัดเป็นตัวแปรที่ส่งผลต่อการพัฒนาหลักสูตรประกอบด้วย 
1) ปรัชญา ซึ่งหมายรวมถึงจุดมุ่งหมายของการศึกษา ความนึกคิดทางลัทธิต่างๆ และอื่นๆ 
2) การเงินรวมถึงทรัพยากรบุคคลและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ 
3) สังคมและวัฒนธรรมซึ่งรวมถึงภาษาด้วย 
4) ความรู้ ซึ่งรวมถึงเนื้อหาวิชา มโนทัศน์ และกระบวนการทางสมอง 
5) จิตวิทยาซึ่งประกอบด้วย ทฤษฎีการเรียนรู้วิธีสอนและอื่น ๆ

        จากแนวคิดด้านพื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตร พอสรุปได้ว่า พื้นฐานในการพัฒนาหลักสูตรนั้น ประกอบด้วย 6 ด้าน ได้แก่ 
1) พื้นฐานทางด้านปรัชญา  
2) พื้นฐานทางด้านจิตวิทยา  
3) พื้นฐานทางด้านประวัติศาสตร์  
4) พื้นฐานทางด้านสังคมวิทยาซึ่งรวมถึงด้านด้านวัฒนธรรมและภาษา การเมืองการปกครอง เศรษฐกิจ  
5) พื้นฐานทางด้านสาขาวิชาที่ต้องการจะพัฒนาหลักสูตรและ  
6) ความก้าวหน้าวิทยาการ เทคโนโลยี บทบาทของสถาบันการศึกษาและสื่อมวลชน ซึ่งจัดเป็นตัวกำหนดที่สำคัญในการพัฒนาหลักสูตร การจัดการเรียนการสอนให้มีความสอดคล้องและทันสมัยตอบรับต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงต่างๆ เพื่อพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีความรอบรู้ สามารถเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพและสอดคล้องตอบรับต่อความต้องการของสังคมในปัจจุบัน